ที่มาภาพ:
ภาพจาก AP ขณะลูกค้ากำลังใช้บริการร้านเนตคาเฟ่แห่งหนึ่งในปักกิ่ง
ทางการจีนออกนโยบายผ่อนปรนกฎคุมร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่
หลังความต้องการใช้อินเตอร์เน็ตในชนบทเพิ่มสูงขึ้น
หลังจากที่ความต้องการใช้อินเตอร์เน็ตในชนบทของจีนยังคงเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น เพื่อป้องกันร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่เถื่อนจะเกิดขึ้นเกลื่อนเมือง ทางการจีนจึงยอมผ่อนปรนกฎการตั้งร้านอินเตอร์เน็ต
ทั้งเรื่องสถานที่ตั้ง และจำนวนคอมพิวเตอร์ในร้าน สำนักข่าวซินหัว ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลจีน
รายงานว่า แม้จะมีการผ่อนปรนกฎ แต่ก็ยังมีการกำหนดขนาดของร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ไว้
โดยร้านเนตฯ ที่จะเปิดได้ตามกฎหมายต้องมีขนาดอย่างน้อย 20 ตารางเมตร
และเว้นระยะห่างระหว่างคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องไว้ อย่างน้อย 2 เมตร เจ้าหน้าที่จากฝ่ายการตลาด
สังกัดกระทรวงวัฒนธรรมจีน กล่าวกับ สถานีวิทยุแห่งชาติจีน ว่า กฎที่ควบคุมร้านเนตอย่างเข้มงวดนั้น
ทำให้เกิดร้านเถื่อนผิดกฎหมายมากขึ้น ในขณะที่เมืองใหญ่ๆ และเมืองขนาดกลาง มีร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ให้บริการกันล้นความต้องการของตลาด
แต่ตามเมืองเล็กๆ และเมืองในชนบท ยังคงมีความต้องการร้านประเภทนี้อยู่มาก และในอนาคตเมืองในชนบทก็จะมีร้านเนตคาเฟ่มากขึ้นเพราะมีจำนวนประชากรย้ายภูมิลำเนามากขึ้น
การผ่อนปรนกฎฯครั้งนี้
ถือเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดของรัฐบาลจีนที่ออกมาตรการควบคุมร้านเนตคาเฟ่
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เมื่อปีที่แล้ว(2556) มีการออกกฎให้เฉพาะร้านเนตคาเฟ่ที่เป็นแบรนด์เครือข่ายเท่านั้นที่จะสามารถให้บริการได้ ด้านตัวเลขจากสมาคมการให้บริการด้านอินเทอร์เน็ตจีน ปี 2555 ระบุว่า แผ่นดินใหญ่มีร้านเนตคาเฟ่อยู่ประมาณ 136,000
แห่ง มีผู้ใช้ทั้งหมดรวม 126 ล้านคน คิดเป็น 22
เปอร์เซ็นต์จากผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั้งหมดในประเทศ นอกจากนี้ ในปีดังกล่าว
ร้านเนตคาเฟ่ ยังทำรายได้รวมกันได้มากถึง 54,000 ล้านหยวน
หรือราวๆ 120,000 ล้านบาท แต่ก็ถือว่าตกลงมาจากปี 2554
ถึง 13 เปอร์เซ็นต์
วิเคราะห์ข่าว:
จากการที่จำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในจีน
ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น นับเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ช่วยขยายการทำธุรกิจซื้อขายสินค้าออนไลน์
ที่นับวันทวีความนิยมมากยิ่งขึ้น และส่งผลให้ผู้ให้บริการเครือข่ายสัญญาณฯ
ต่างพากันออกโปรโมชั่นให้สอดคล้องกับความต้องการและอุปกรณ์ต่างๆ ของประชาชน
การผุดของร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่
อย่างมากมายนั้นก็เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เกินความคาดหมาย
สิ่งที่ตามมากกับปรากฏการณ์นี้ก็ไม่พ้น ปัญหาในสังคมจีน
ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจและการเมือง การที่สถานการณ์ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วนี้
ทำให้ทางการจีนเป็นกังวลกับความเสี่ยงในการใช้โซเชียลมีเดีย และเว็ปไซต์ต่างๆในสังคมจีน
โดยเฉพาะประเด็นการสร้างความไม่สงบและทำลายความมั่นคงของประเทศ รัฐบาลจีนจึงกวดขันเข้มงวด
และควบคุมการใช้สื่ออินเตอร์เน็ตในช่วงเวลาที่ผ่านมา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น